คอมพิวเตอร์ -ทำเว็บไซต์ติดอันดับด้วย SEO 

คอมพิวเตอร์ -ทำเว็บไซต์ติดอันดับด้วย SEO 

คอมพิวเตอร์ ทำเว็บไซต์ติดอันดับด้วย SEO  ย่อมาจาก search engine optimize หรือเป็นการปรับจูนให้กระบวนการค้นหาข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด 

วิธีการที่จะปรับปรุงเว็บให้อยู่หน้าแรก ต้องทำให้เว็บมีความน่าสนใจ และการนำบทความเข้าสู่เว็บก็เป็นเรื่องสำคัญ และควรเป็นบทความที่สดใหม่ ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน 

รายงานการวิเคราะห์สินค้า นอกจากสินค้าที่ได้คุณภาพและมาตรฐานแล้ว

ยังต้องโฆษณาหรือรู้จักที่จะ present สินค้า, present องค์กร และที่สำคัญเลยเวลาทำเว็บไซต์ต้องมี customer reference หมายความว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์ของท่าน 

หากว่าเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่มีคุณภาพ หรือมีจำนวนบริษัทเข้ามาเป็นลูกค้ามาก หมายความว่าองค์กรมีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังต้องมีช่องทางติดต่อสื่อสารที่ชัดเจนไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ , คอมพิวเตอร์, อีเมล์แอดเดรส หรือโปรแกรมด้านโซเชียลต่างๆ เช่น line, whatsapp, facebook, messenger 

โดยข้อพิจารณาคือ เนื้อหาของเว็บดึงดูดใจลูกค้าหรือไม่,เว็บไซต์เป็นมิตรต่อผู้ใช้หรือไม่, หน้าเพจมีผู้เข้าเยี่ยมชมบ่อยแค่ไหน เพราะอะไร, การเปลี่ยนแปลงด้าน SEO on page มีผลลัพธ์ให้อันดับเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่

สไตล์ของคำค้นหา หรือ keyword คุณต้องการให้เป็นแบบใดและในอนาคตต้องการเป็นแบบใด ?

เทคนิคการสร้างคำคีย์เวิร์ดใกล้เคียง เช่น ผู้ท่องเว็บต้องการค้นหาว่า  ‘SEO consultant’ เว็บไซต์เราอาจจะแปะคำคีย์เวิร์ด ‘SEO expert’, ‘SEO services’, ‘SEO company‘ เข้าไปด้านหลัง ที่มีความหมายไม่ต่างกันมากนัก เพื่อเว็บไซต์จะมีโอกาสที่ผู้คนเข้ามาค้นหาบ้าง

การนำเสนอสินค้าของบริษัทผ่านช่องทาง youtube ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าหากเรานำเสนอข้อมูลที่มีแต่ตัวหนังสืออาจจะไม่น่าดูเท่าไหร่นัก 

หันมาใส่ใจเรื่องการทำเว็บไซต์ให้แสดงผลบนโทรศัพท์ให้มาก เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบัน โทรศัพท์เข้ามามีบทบาทในการอ่านข่าวสารหรือการเปิดอินเตอร์เน็ตของประชาชนทั่วไปกันแล้ว

ทำให้เว็บไซต์ของท่านโหลดข้อมูลได้เร็วขึ้น หากเว็บไซต์มีรูปภาพขนาดใหญ่และรูปมากเกินไป อาจทำให้เว็บไซต์โหลดข้อมูลได้ช้า ก็ควรจะให้ web developer มีงานแก้ไขปรับปรุงให้เว็บทำงานได้รวดเร็วทันใจ

ในหลายเว็บไซต์อาจมีการฝั่งคุกกี้เพิ่มไว้เก็บสถิติการเข้าชมเว็บไซต์ของคนทั่วไป ว่าผู้คนส่วนมากเข้าไปที่เมนูไหนของเว็บไซต์มากที่สุด content ด้านไหนที่เป็นที่สนใจ และ content ไหนที่ผู้คนส่วนมากไม่ชอบดู เป็นต้น

การนำ SEO มาประยุกต์ใช้ในงานด้านเว็บก็เพื่อผลประโยชน์ด้านธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจมีโอกาสจะขายของได้มาก เช่นตั้งคำค้นหาว่า  นาฬิกาข้อมือ smart watch หากว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทขึ้นอยู่หน้าแรกของ google ย่อมทำให้โอกาสที่ท่านจะขายสินค้าได้ก็มีมาก

หากมีการปรับแต่งให้เว็บไซต์อยู่หน้าแรกแล้วไซร้ โอกาสที่คนจะเข้าเว็บก็มีมาก เมื่อคนเข้าเว็บมากโอกาสขายได้ก็มีมากและนำมาซึ่งรายได้อันมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลก

คอมพิวเตอร์- SQL ภาษาที่สำคัญใน database

ภาษา SQL

ภาษา SQL Structure query language หรือ ภาษา SQL เป็นภาษาที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูล (database) ซึ่งภาษานี้มีโครงสร้างคือ select * from <<table_name>> where ……;

Select หมายถึงส่วนที่จะให้แสดงฟิลด์ของ table หากเป็น * คือแสดงทุกฟิลด์ใน table

Where clause คือส่วนของเงื่อนไข ว่าต้องการ filter (กรอง) เงื่อนไขใด เช่น where language = ‘THAI’

SQL เป็นภาษาที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับรู้และส่งข้อมูลติดต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ (ในที่นี้อาจจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวเอง-local หรือเป็นเครื่องแม่ข่าย- server) และผู้ใช้ 

ภาษา SQL นี้เริ่มมีใช้กันทั่วโลกตั้งแต่ปี 1986 โดยเป็นการใช้งานกับการจัดการด้านฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์กัน หรือ relational database management system 

ซึ่งภาษานี้แบบ basic ที่สุดก็คือการ query data (สืบค้นข้อมูล) ที่ต้องการออกมาโดยใช้คำสั่งเพียง 1 คำสั่ง อาจจะได้ข้อมูลออกมาหลายเรคอร์ดก็ได้ ซึ่งประการต่อมาหากว่าข้อมูลมีขนาดใหญ่อาจนำไปสู่การ tuning data ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แรกเริ่มเดิมทีม SQL ใช้ในการศึกษาด้าน พีชคณิตและแคลคูลัส และจริงๆ แล้ว SQL แบ่งแยกออกมาได้หลายประเภทคือ ภาษาด้านการคิวรี่ข้อมูล data query language (DQL), ภาษาด้านการกำหนดนิยามของข้อมูล data definition language (DDL), ภาษาด้านการควบคุม transaction ของข้อมูล data control language (DCL), และภาษาด้านการจัดการข้อมูล data manipulation language (DML) 

ดังนั้นเราอาจกล่าวได้ว่า SQL แบ่งแยกออกเป็นภาษาที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูล (select), ภาษาที่ใช้จัดการข้อมูล (insert, update และ delete), ภาษาที่ใช้กำหนดนิยามข้อมูล data definition (create, alter), ภาษาที่ใช้ควบคุมข้อมูล (commit, rollback)

จริงๆแล้ว SQL มีบทบาทด้านธุรกิจและมีการคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 1970 โดย Edgar F. Codd 

SQL ถูกทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันเรียกว่า American National Standards Institute (ANSI) ในปี 1986 หมายความว่าไม่ว่าจะใช้งานผ่าน database ไหนก็ต้องมี syntax มาตรฐานที่เหมือนกัน 

ภาษา SQL อาจมีชื่อเรียกที่ต่างกันตาม แหล่งของ database แต่ให้เข้าใจว่าจริงๆ แล้วมันก็คือ structure query language เช่นเดียวกันหมด เช่นใน database oracle  เรียกว่า PL/SQL, database Microsoft, Sybase เรียกว่า transact SQL เป็นต้น 

การใช้งานจะต้องใช้งานผ่านโปรแกรม ซึ่งโปรแกรมก็มีหลากหลา ทั้ง dbeaver, pl/SQL developer, oracle SQL developer เป็นต้น

ซึ่งในศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์แล้วนอกจากการเขียนเว็บไซต์ การเขียนโปรแกรมภาษา SQL ก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะว่าเป็นส่วนเมนหลักที่ใช้เชื่อมต่อกับข้อมูลของเครื่องแม่ข่ายโดยตรง ไม่ว่าเว็บไซต์จะสวยงามแค่ไหน แต่การใช้ภาษา SQL หากใช้งานอย่างไม่มีประสิทธิภาพและไม่รู้จักวิธีใช้งานมัน ก็เปล่าประโยชน์

ซึ่งทำให้เกิดอาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานด้าน SQL หลายบทบาทเช่น PL/SQL developer, SQL developer หรือแม้กระทั่ง database administrator ก็ต้องเขียนภาษา SQL เป็นเช่นกัน 

อนึ่งผลลัพธ์จากการสืบค้นข้อมูล อาจ export ออกมาในรูปแบบของ text file, json file, excel file ก็ได้ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย จุดอ่อนบาคาร่า

ยังจำกันได้ไหมโทรศัพท์มือถือแบรนด์ดังในอดีตอย่างแบล็คกเบอร์รี่

โทรศัพท์มือถือแบรนด์ดัง

โทรศัพท์มือถือแบรนด์ดัง ในยุคปัจจุบันที่โทรศัพท์มือถือกำลังมีอิทธิพล

โทรศัพท์มือถือแบรนด์ดัง เกี่ยวกับเป็นอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของทุกคนทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีโทรศัพท์มือถือมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อออกมา มีทั้งระบบปฏิบัติการ IOS หรือแม้แต่ระบบ Android แต่ก่อนหน้านี้ย้อนไปเมื่อประมาณสิบกว่าปี เรามีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่งที่เป็นที่นิยมมากในตลาดของโทรศัพท์มือถือ เช่นกันนั่นก็คือโทรศัพท์มือถือ Black berry

ซึ่งโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

โดยมีการผลิตโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อนี้ครั้งแรกในปี 1999 โดยบริษัทแบล็คเบอร์รี่จำกัด ราคาเริ่มต้นในการขายช่วงนั้นก็หมื่นบาทต้นๆ ลักษณะเด่นของโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อนี้คือปุ่มกดที่เหมือนกับแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ และรุ่นแรกที่มีการวางขายคือ รุ่น Black berry 6710

ซึ่งมีการวางขายครั้งแรกในปี ค.ศ. 2002 คุณสมบัติของเครื่อง Black berry จะสามารถโทรออก รับสายเรียกเข้าได้รวมถึงสามารถถ่ายรูปและถ่ายวีดิโอได้ด้วย ที่สำคัญใครที่ชื่นชอบการฟังเพลง สามารถฟังเพลงจากเจ้าเครื่อง Black berry นี้ได้

จึงทำให้มีผู้คนจากทั่วโลกนิยมใช้โทรศัพท์มือถือ Black berryกันเป็นจำนวนมาก ขนาดนายกรัฐมนตรีของประเทศต่างก็ยังมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือยี่ห้อนี้ ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Black berry สามารถตีตลาดเอาชนะใจคนใช้โทรศัพท์มือถือ แซงหน้าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ IPhone ได้เลย

โดยถือว่ายุคนั้นเป็นยุคของ Black berry จริงๆ ซึ่งยุคดังกล่าวเป็นยุครุ่งเรืองของระบบ 3G แต่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 เป็นต้นมาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Black berry ก็หมดความนิยมจากผู้ใช้โทรศัพท์มือถือลงเพราะถูกตีตลาดจาก apple และ sumsung

ซึ่งโทรศัพท์มือถือทั้งสองยี่ห้อนี้มีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของโทรศัพท์มาเป็นรูปแบบใหม่

จากที่ต้องมานั่งกดแป้นพิมพ์ก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้มือทัชสกรีน ซึ่งทำให้งานกับการใช้งาน และยังมีการพัฒนา application อย่างต่อเนื่องในขณะที่โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Black berry ยังคงใช้แป้นปุ่มกดเหมือนเดิม ถึงจะมีการเพิ่มจุดขายพัฒนาระบบมือถือให้มีการส่งข้อความหากันผ่านโปรแกรม Black Berry  Messenger แต่ก็ไม่สามารถสู้ IOS ของ Apple และ Android ของ Google ได้

เพราะด้วยโปรแกรมที่มีข้อจำกัดว่าจะต้องใช้งานโทรศัพท์มือถือของ Black berry เหมือนกันเท่านั้นจึงจะใช้งานส่งข้อความหากันได้ทำให้ความนิยมในการใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อนี้ลดลง เพราะในช่วงนั้นมีการพัฒนาโปรแกรมการสนทนากันผ่านข้อความด้วยโปรแกรม what app ซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความส่งหากันได้ฟรี และใช้งานได้กับเครื่อง สู้ IOS ของ Apple และ Android ของ Googleรวมถึงเครื่อง Black berry เองก็ตาม

ทำให้คนมีตัวเลือกมากขึ้นที่จะลองใช้งานโทรศัพท์มือถือยี่ห้อใหม่ๆ ที่ราคาอาจจะไม่แพงเทียบเท่ากับเครื่อง Black berry และนี้เองจึงทำให้ปัจจุบันนี้ Black berry จึงเหลือเป็นเพียงตำนานเท่านั้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย คาสิโนออนไลน์ฝากขั้นต่ำ 100

ความรู้พื้นฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ความรู้พื้นฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ความรู้พื้นฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

RAID 5 (Block – level Striping with Distributed Parity) ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ 3 ตัวขึ้นไป บันทึกข้อมูลโดยแบ่งไฟล์เป็นบล็อกกระจายไว้ในฮาร์ดดิสก์ทุกตัว และแทรกข้อมูล Parity ไว้บนฮาร์ดดิสก์ทุกตัวแบบ Rotation Parity (ใช้ฟังก์ชัน Exclusive Or) หากฮาร์ดดิสก์ที่เก็บข้อมูลตัวหนึ่งเสีย ก็จะใช้ข้อมูล Parity และข้อมูลของฮาร์ดดิสก์ตัวที่เหลือมาสร้างข้อมูลที่สูญหายนั้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ RAID 5 จะหายไปส่วนหนึ่งแต่จะไม่เกิน 30%

RAID 5 จะคำนวณขนาดความจุ (Capacity) โดยการนำฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุน้อยที่สุดคูณด้วยจำนวนฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดลบหนึ่ง (Capacity x (n – 1)) เช่น ทำ RAID 5 ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 80 กิกะไบต์จำนวน 4 ตัว จะมีความจุโดยรวมเป็น 240 กิกะไบต์ (80 x (4 – 1) = 240)

เนื้อหาแสดงพื้นที่ใช้งานของฮาร์ดดิสก์

(ฮาร์ดดิสก์ : ความจุทั้งหมด : พื้นที่ใช้งาน : เสียพื้นที่)

80 GB x 3 : 240 GB : 160 GB : 30%

80 GB x 4 : 320 GB : 240 GB : 25%

80 GB x 5 : 400 GB : 320 GB : 20%

80 GB x 6 : 480 GB : 400 GB : 16%

RAID 5 จะมีอัตราในการอ่าน – เขียนข้อมูลหรือทรูพุต (Throughput) ดีมาก โดยไม่เกิดปัญหาคอขวด (Bottleneck) และยังสนับสนุนการทำ Hot Swap เช่น ในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ตัวใดตัวหนึ่งใน กลุ่มเกิดเสียขึ้นมา เราสามารถถอดฮาร์ดดิสก์ตัวที่เสียนั้นออกแล้วเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่โดยไม่ต้องชัตดาวน์ระบบ ไม่มีผลกระทบต่อยูสเซอร์ ส่วนข้อมูลที่สูญหายไปกับฮาร์ดดิสก์ตัวที่เสียจะถูกกระบวนการของ RAID สร้างขึ้นให้ใหม่โดยอัตโนมัติ RAID 5 จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัยของข้อมูล เช่น แอพพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ เมลเซิร์ฟเวอร์ เว็บเซิร์ฟเวอร์ และ FTP Server

RAID 6 (Block – level Striping with Double Distributed Parity)

RAID 6 (Block – level Striping with Double Distributed Parity) จะต้องใช้ฮาร์ดดิสก์อย่างน้อยจำนวน 4 ลูก ใช้หลักการทำงานเดียวกันกับ RAID 5 แต่จะเพิ่ม Parity block เข้าไปรวมเป็น 2 ชุด เป็นการเพิ่มระบบ Fault Tolerance ทำให้สามารถ Hot Swap ฮาร์ดดิสก์ได้พร้อมๆ กัน 2 ตัว และกู้ข้อมูลกลับคืนมาได้ แม้ฮาร์ดดิสก์จะเสียพร้อมกันถึง 2 ตัวก็ตาม (ใน RAID 5 จะทำ Hot Swap ได้ครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น ถ้าหากฮาร์ดดิสก์เกิดมีปัญหาพร้อมกัน 2 ตัว ข้อมูลจะเสียหายทั้งระบบ) RAID 6 เหมาะกับงานที่ต้องการความปลอดภัยและเสถียรภาพของข้อมูลที่สูงมากๆ

 

 

สนับสนุนโดย บาคาร่าขั้นต่ำ 10 บาท

มาเปิดการใช้งาน siri กันเถอะ

มาเปิดการใช้งาน siri กันเถอะ

หลายคนคงเคยได้ยิน Application  Siri บนโทรศัพท์มือถือแบรนด์ IPhone กันมาบ้างแล้ว

มาเปิดการใช้งาน siri กันเถอะ คุณรู้หรือไม่ว่า Application  คืออะไร มีไว้เพื่ออะไร ทำไม Application ถึงมีอยู่บนโทรศัพท์มือถือของ IPhone ทุกรุ่นและยังมีการพัฒนา Application  Siri มาอย่างต่อเนื่อง 

        Application  Siri เป็น Application ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับคำสั่งจากคนใช้งานโทรศัพท์มือถือด้วยเสียง ซึ่ง Siri เป็นเพียงแค่ Software เท่านั้นแต่ก็สามารถทำตามคำสั่งที่ถูกสั่งงานได้ ซึ่ง siri จะคอยทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยของเรา เพื่อให้เราสามารถใช้งานและควบคุมระบบการทำงานของโทรศัพท์มือถือของไอโฟนได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการแค่ใช้เสียงสั่งโดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มกด สำหรับการพัฒนาความสามารถของ siri นั้น ทาง apple มีการพัฒนาผ่านทาง IOS ซึ่งจะเห็นได้ว่าเวลาที่มีการ update IOS แต่ละครั้ง siri ก็จะมีความสามารถมากขึ้นทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการคุณจะใช้คำสั่งเสียงให้ทำอะไรเช่น การโทรออก การส่งข้อวาม การค้นหาสถานที่หรือแม้แต่หากเราหา Application ในมือถือที่เราโหลดไว้ไม่เจอ ถ้าถาม siri สามารถค้นหาให้เราได้แน่นอน

 

       สำหรับสิ่งที่ siri สามารถช่วยเหลือคุณได้คือ 

  • หมวดการตั้งค่า  คุณสามารถให้ siri  เปิด wifi ให้ได้เพิ่มความสว่างของหน้าจอให้ได้ หรือเปิดหมวดห้ามรบกวนให้ได้
  • หมวดการโทร คุณสามารถดูประวัติการโทรได้ รวมถึง siri ยังสามารถโทรออกให้คุณได้ด้วยด้วยคำสั่งเสียงของคุณ
  • หมวดการใช้งาน Application คุณสามารถให้ siri เปิดไลน์ ทวีตข้อความบนทวีตเตอร์ หรือเขียนข้อมูลลง facebook ให้ได้รวมถึงหากคุณจะรับส่งอีเมลล์แล้วให้ siri ทำแทนก็สามารถทำได้ด้วย
  • หมวดช่วยเตือน siri ก็สามารถเตือนความจำ เป็นเหมือนเลขาส่วนตัวสร้างตารางการนัดหมายให้ รวมถึงเป็นนาฬิกาปลุกให้คุณได้อีก ที่สำคัญ siri สามารถจด note ค้นหาข้อมุลที่คุณอยากรู้ให้ก็ได้
  • ยังมีอีกหลายการทำงานที่ใช้เสียงสั่งให้ siri หาหรือสั่งให้ทำแทนได้เช่น การส่งข้อความ  การถามเกี่ยวกับสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ การหาแผนที่หาเราต้องการไปที่ไหน รวามถึงสามารถเปิดเพลงให้เราฟังได้ด้วย

และสำหรับการเปิดการใช้งาน siri นั้นให้เข้าไปตั้งค่าที่เมนูตัวเครื่อง 

เปิดการใช้งาน siri เข้า การตั้งค่า  > ทั่วไป > siri แล้วเปิดสวิตท์ขวามือให้เป็นสีเขียวซึ่งต้องเปิดการใช้งานควบคู่กับอินเตอร์เน็ต หรือ wifi หลังจากนั้นต้องเปิดการอนุญาตให้เรียก siri เข้า การตั้งค่า  > ทั่วไป > siri > เลือกหัวข้อ Allow หวัดดี Siri แล้วเปิดสวิตท์ขวามือให้เป็นสีเขียว สำหรับการเลือกภาษาให้ siri ฟังคำสั่งเราเข้าใจพูดคุยกับเรารู้เรื่องก็เข้าหน้าเดิม แต่เลือกหัวข้อต่อจาก หัวข้อ Allow หวัดดี Siri จะมีคำว่า ภาษา ให้เราเข้าไปเลือกเป็นภาษาไทย ถัดลงมาเลือก My Info เพื่อเป็นการเปิดการอนุญาตให้ siri สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลของคุณได้ เมื่อมีการสั่งงานด้วยเสียง

นี่เป็นเพียงการใช้งานคร่าวๆ อย่าลืมลองเข้าไปลองเล่นโปรแกรมอัจฉริยะตัวนี้ดูนะคะ

 

ได้รับการสนับสนุนเกี่ยวกับบทความมาจาก แทงบอลไม่มีขั้นต่ำ

การพัฒนาความสามารถของตนเอง ด้านคอมพิวเตอร์

การพัฒนาความสามารถของตนเอง

การพัฒนาความสามารถของตนเอง หากอยากเรียนคอมพิวเตอร์แต่ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหนก่อน หรือไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จะไปเรียนกับใคร หรือไม่ค่อยมีเวลาจะสามารถศึกษาได้จากที่ไหน เรามีคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้

สิ่งแรกที่ควรคำนึงในการคิดจะเรียนคอมพิวเตอร์นั้น

จะต้องทราบเสียก่อว่าคุณอยากจะเรียนเพื่ออะไร หากคุรอยากเรียนเพื่อเป็นการพัฒนาตนเอง ก็ควรทราบเสียก่อนว่าอยากมีการพัฒนาในด้านใด 

ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นบางคนก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ซึ่งสาเหตุหลักๆเราต้องการจะพัฒนาตนเองหรืออยากรู้ในด้านไหนก่อน เราก็เริ่มจากเรื่องนั้นเป็นอันดับแรก หลังจากที่มีการคิดและไตร่ตรองเรื่องของกาเรียนว่าจะศึกษาทางด้านไหน เราก็จะมาเริ่มขั้นตอนต่อไป เราควรตั้งเป้าไว้สำหรับการเริ่มการศึกษา ต้องค้นคว้าอย่างจริงจัง เพื่อให้บรรลุในเรื่องของการพัฒนาตนเอง ซึ่งคุณนั้นต้องมีการจดการก้าวหน้าและมีการบันทึกเพื่อเป็นการกระตุ้นตนเองให้พัฒนาตนเองอยู่เสมอ 

ซึ่งหากคุณทราบรายละเอียดเล็กๆน้อยที่คุณคอยจดบันทึกไว้นั้น

คุณจะมีการกระตุ้นตนเองให้มีการพัฒนาตนเองมากขึ้น เพราะหากอยู่กับที่ก็คงไม่ไปไหนสักที ดังนั้นการจดการพัฒนาความสามารถของตนเองจึงเป็นเรื่องที่ควรจะทำ

หลักการกระตุ้นให้เราเก่งขึ้น จะสามารถทำได้โดยมีการวัดผลให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอะไรก็ตาม อาทิเช่น หากคุณเป็นคนที่มีความสามารถในการพิมพ์คอมพิวเตอร์ได้ช้ากว่าบุคคลอื่น เราสามารถหัดพิมพ์ด้วยการตั้งเวลา และนับตัวอักษรในการพิมพ์เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้มีประสิทธิภาพในการพิมพ์ได้รวเร็วขึ้น 

แต่ก็มีวิธีการสอนในเรื่องที่คุณอยากพัฒนา

ซึ่งสามารถหาอ่านและเรียนเพิ่มเตอมได้ที่สื่อทั่วๆไปหรือตามหนังสือเฉพาะกับสิ่งที่คุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม นอกจากเรียนรู้เพิ่มแล้วคุณยังต้องฝึกฝนในเรื่องนั้นให้บ่อยขึ้ เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้มีความคล่องตัว เพื่อจะได้ไม่ติดขัดในการนำไปใช้

ซึ่งหากท่านไม่ลองวิธีอื่นๆหรือหาวิธีอื่นๆมาใช้เพื่อพัฒนาตนเอง

ท่านก็จะไม่พัฒนาตนเองขึ้นมาได้ เพราะการศึกษาและการหาความรู้จากสิ่งใหม่ๆเพื่อนำมาพัฒนาตนเอง เป็นการเปิดโอกาสให้ตนได้ฉลาดขึ้น ซึ่งคุณควรศึกษาคอมพิวเตอร์ที่คุณอยากเรียนรู้และคุณจะต้องหาแนวทาง ในการเรียนเป็นวิธีลัดเพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 

หากคุณไม่มีการพัฒนาตนเองในเรื่องของคอมพิวเตอร์คุณเองอาจจะตามคนอื่นไม่ทัน หรือเขาพูดเรื่องอะไรคุณก็คุยกับเขาไม่รู้เรื่องเพราะเนื่องจากสมัยนี้คอมพิวเตอร์หรือเรื่องเกี่ยวข้องกับอทีเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการมีความรู้หรือความสามรถเพิ่มในเรื่องของไอทีจึงเป็นความสำคัญมากอย่างหนึ่ง

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่น่ารู้

 Zone Name

 Zone Name ให้กำหนดชื่อโซนใหม่ในช่อง Zone Name ซึ่งเป็นชื่อเมนที่เซิร์ฟเวอร์เครื่องนี้รับผิดชอบ จากนั้นคลิกปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

 Zone Name  ในหน้า Dynamic Update เป็นการกำหนดความปลอดภัยในการอัพเดตทรัพยากรเก็บไว้ในเรคอร์ดอัตโนมัติ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ

– Allow only secure dynamic updates อนุญาตให้เฉพาะคอมพิวเตอร์ที่เป็นสมาชิกของโดเมนนี้เท่านั้น ที่จะสามารถร้องขอทะเบียนเข้าสู่ DNS Server เพื่อป้องกัน DNS Server จากการบันทึกคอมพิวเตอร์แปลกปลอมที่พยายามเข้าสู่ฐานข้อมูลอัตโนมัติ

– Allow both nonsecure and secure dynamic updates คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถร้องขอลงทะเบียนเข้าสู่ DNS Server โดย DNS Server จะบันทึกคอมพิวเตอร์นี้เข้าสู่ฐานข้อมูลอัตโนมัติ แม้ว่าคอมพิวเตอร์นั้นจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ไม่อยู่ในโดเมนเดียวกันก็ตาม

– Do not allow dynamic updates ปฏิเสธการร้องขอลงทะเบียนเข้าสู่ DNS Server จากคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ซึ่งผู้ดูแลระบบจะต้องเพิ่มไอพีแอดเดรสและ FQDN ของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการบันทึกเข้าสู่ฐานข้อมูลของ DNS เอง

ในที่นี้ให้เราเลือก Allow only secure dynamic updates เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของระบบ และคลิกปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

สิ้นสุดการสร้างโซนใหม่ โดยจะสรุปข้อมูลในการกำหนดค่า DNS Server ให้ทราบ จากนั้นคลิก Finish สิ้นสุดการสร้างโซนโดยสมบูรณ์

ไปที่เครื่องมือ DNS Manager ที่คอนเทนเนอร์ Forward Lookup Zones จะเห็นโซนชื่อโดเมน siam.com ซึ่งบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของโดเมนคอนโทรลเลอร์ (เครื่อง Capricorn ซึ่งเป็น PDC) ให้คลิกเมาส์ที่โซนไฟล์ siam.com จะแสดงข้อมูล SOA และ NS (Name Server)

การเรพลิเคตโซน

DNS Server แบบ Active Directory Integrated Zone นั้น เมื่อการเพิ่มหรือแก้ไขโซนก็จะมีกระบวนการเรพลิเคตโซน (Zone Replicate) ที่รวมอยู่ใน Active Directory ไปยังโดเมนคอนโทรลเลอร์เครื่องอื่นบนโดเมนอัตโนมัติ ในตัวอย่าง หลังจากเราสร้างโซน siam.com เพิ่มขึ้นมา เราสามารถดูผลลัพธ์การเรพลิเคตโซน โดยเข้าไปเครื่อง PENGUIN77 ซึ่งเป็น Backup Domain Controller (BDC) จากนั้นเปิดเครื่องมือ DNS Manager เลือกที่คอนเทนเนอร์ Forward Lookup Zones จะแสดงโซนของโดเมน siam2019.com และโซนของโดเมน siam.com เกิดขึ้นเองอัตโนมัติ เพราะเครื่องโดเมนคอนโทรลเลอร์ Capricorn ได้ทำการเรพลิเคตโซนไปยัง Active Directory ของเครื่องโดเมนคอนโทรลเลอร์ทุกตัว

เล่นคอมพิวเตอร์มากๆเสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง

เล่นคอมมากเสี่ยงเป็นโรคอะไร

เล่นคอมมากเสี่ยงเป็นโรคอะไร การเล่นคอมพิวเตอร์มากๆหรือนานๆ สามารถเป็นโรคต่างๆได้เหมือนกัน

เล่นคอมมากเสี่ยงเป็นโรคอะไร หลักการเบื้องต้นคุณทราบหรือเปล่าว่าหากเราเล่นคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆหรือหลายชั่วโมงเราจะมีผลข้างเคียงอะไรได้บ้าง บทความนี้เป็นบทความที่จะเขียนเหตุการณ์การใช้คอมพิวเตอร์มากจนส่งผลให้เรามีอาการอื่นๆขึ้นมาได้ หรืออาการต่างๆที่เราเป็นนั้นมาจากสาเหตุการเล่นคอมพิวเตอร์หรือไม่ งั้นเรามาดูกันเลย

 

การกดทับเส้นบริเวณข้อมือ (Carpel Tunnel Syndrome)

สำหรับใครที่มีอาการปวดร้าวบริเวณดังต่อไปนี้ ข้อมือ ฝ่ามือ และนิ้วมือ หรืออาจจะรู้สึกถึงอาการชาที่มือ ไม่สามารถกำมือให้แน่ได้ หรือสังเกตุได้ว่าเวลาเราหยิบหรือจับอะไรก็จะไม่อยู่สิ่งของเหล่านั้นอาจจะมีการล่วงหล่นได้ค่อนข้างบ่อย ปัญหานี้เกิดขึ้นด้วยการที่เรานั้นมีการจัดเม้าส์ที่ไม่ถูกวิธีหรือมีการเกร็งในเวลาจับเม้าส์มากเกินไป สำหรับการเกร็งข้อมมือนานๆไม่ว่าจะเป็นการจับเม้าส์หรือการกดแป้นคีย์บอร์ดเป็นเวลานานๆจะทำให้ข้อมือของเราเกิดการอักเสบขึ้นได้ 

 

หลักการปฎิบัติเพื่อไม่ให้เกิดการเกร็งข้อมือหรือข้อมืออักเสบนี้ 

สามารถทำได้ด้วยวีธีการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เม้าส์และคีย์บอร์ด ให้อยู่ในท่าสบายไม่เกร็งจนเกินไป หรือขยับท่านั่งและปรับเปลี่ยนท่าจับบ่อยๆให้มือและข้อมือได้มีการเปลี่ยนท่า เพื่อจะได้ไม่เกิดการเกร็งของข้อมือขึ้นได้ หรือท่านอาจจะวางมือให้ขนานไปกับพื้นโต๊ะทำงานของคุณ และไม่ควรงอมือหรือเกร็งข้อมือเวลาใช้เม้าส์หรือแป้นคีย์บอร์ด และสิ่งนี้สำคัญสุดคือไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานมากนัก ควรมีการลุกขึ้นหรือขยับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการพักมือหรือการเดินเอยืดเส้นยืดสายให้กับตนเอง เพื่อเป็นการผ่อนคลาย ตนเองอีกด้วย

 

ถ้าอาการข้างตนยังไม่ทุเลาหรือไม่หาย ควรปฎิบัติดังนี้

หากคุณเองมีอาการเกร็งที่ข้อมือหรือมือชาและทำการทำการข้างต้นที่แนะนำไปแล้วยังไม่หายหรือไม่มีอาการทุเลาลงสักนิด ท่านควรไปพบเพทย์เฉพาะท่งเป็นการดีที่สุด เพื่อแก้ไขรักษาให้ทันท่วงที หากปล่อยไว้อาจะเป็นโรคอื่นๆได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นโรคอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายกับการทำงานคอมพิวเตอร์โดยที่เรไม่รู้ตัว แต่เราคิดว่าเป็นเพราะสาเหตุมาจากการที่เราจับเม้าส์และคีย์บอร์ดมากไปเท่านั้น แต่รักษฃาอาการเบื้องต้นยังไม่หาย ดังนั้นหากรักษาอาการเบื้องต้นไม่หายควรไปพบเฃแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ จะได้รู้จุดที่ชัดเจน เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที

การเล่นคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นการทำงานต่างๆหรือการทำการบ้าน การเล่นเกม หรือแม้แต่การสร้างรายได้ เราควรมีขอบเขตในการเล่น ไม่ควรนั่งแช่กับคอมพิวเตอร์นานจนเกินไป ควรลุกหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นประกอบ เพื่อจะได้ไม่เสี่ยงที่จะเป็นออฟฟิศซินโดรมได้ง่ายๆ 

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภาพรวมระบบเครือข่าย 

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภาพรวมระบบเครือข่าย 

 

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภาพรวมระบบเครือข่าย  มาตราฐานเครือข่าย WAN

1. X.25 เป็นโปรโตคอลมาตรฐานของเครือข่ายแบบเก่า

ซึ่งได้รับการออกแบบโดย CCITT ประมาณปี ค.ศ. 1970เพื่อใช้เป็นส่วนติดต่อระหว่างระบบเครือข่ายสาธารณะแบบแพ็กเก็ตสวิตช์ (PacketSwitching) กับผู้ใช้ระบบ X.25 เป็นการสื่อสารแบบต่อเนื่อง (Connection-oriented) ที่สนับสนุนการเชื่อมต่อวงจรสื่อสารแบบ Switched Virtual Circuit(SVC) และ Permanent Virtual (PVC)

2. Frame Relay เฟรมรีเลย์เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อจาก X.25

อีกทีหนึ่งในการส่งข้อมูลเฟรมรีเลย์จะมีการตรวจเช็กความถูกต้องของข้อมูลที่จุดปลายทาง ทำงานแบบPacket Switching

3. ATM (Asynchronous Transfer Mode) เป็นระบบเครือข่ายความเร็วสูง

ปัจจุบันระบบองค์กรใหญ่ๆ นิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในวงอุตสาหกรรมการสื่อสารโดยระบบ ATM จะมีการส่งข้อมูลจำนวนน้อยๆ ที่มีขนาดคงที่เรียกว่า เซลล์ (Cell)มาตรฐาน OSIองค์กรมาตรฐานสากล ISO (International Organization forStandardization)
ได้ทำการศึกษาและหาแนวทางในการกำหนดมาตรฐานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในระบบเครือข่าย โดยตั้งชื่อมาตรฐานด้านเครือข่ายว่า OSI (Open SystemInterconnection)

เพื่อให้เครือข่ายที่ถูกสร้างจากบริษัทที่แตกต่างกันสามารถเชื่อมโยงและสื่อสารถึงกันได้อย่างไม่มีปัญหาโดยการแบ่งตามโครงสร้างลักษณะการส่งผ่านข้อมูลออกเป็นชั้นๆ ทั้งหมดได้ 7เลเยอร์ (Layer) ดังนี้ระดับชั้นต่างๆ ของ OSI 7 เลเยอร์

1. ระดับกายภาพ (Physical Layer)

เป็นระดับต่ำสุดจะมองในแง่ของสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งข้อมูลระหว่างกันรวมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อจริงๆ อุปกรณ์ระดับนี้ เช่น สายUTP, ฮับ (Hub), รีพีตเตอร์ (Repeater)

2. ระดับเชื่อมข้อมูล (Data Link Layer)

เป็นระดับที่ใช้รับส่งข้อมูลผ่านตัวกลาง (Media) และจัดรูปแบบของเฟรม (Frame)เพื่อเชื่อมต่อกับระดับที่ 3 ระดับเชื่อมข้อมูลยังแบ่งเป็น 2 ชั้นย่อยคือ Logical LinkControl (LLC) และ Media Access Control (MAC) อุปกรณ์ที่ทำงานในชั้นนี้ เช่นบริดจ์ (Bridge), สวิตช์ (Switch)

3. ระดับเครือข่าย (Network Layer) เป็นระดับที่มองข้อมูลที่แพ็กเกจ(Package)

โดยที่แพ็กเกจอาจจะใหญ่หรือเล็กจะเป็นข้อมูลที่ถูกซอยย่อยส่งไปในเครือข่ายซึ่งข้อมูลบางส่วนในแพ็กเกจใช้เป็นตัวช่วยบอกเส้นทางที่แพ็กเกจนั้นเดินทางไปอุปกรณ์ที่ทำงานในชั้นนี้ เช่น เร้าเตอร์ (Router), Switch Layer3

4. ระดับขนถ่าย (Transport Layer)

เป็นระดับที่ใช้ในการควบคุมความผิดพลาดในการรับ-ส่งข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง

5. ระดับเปิด-ปิด (Session Layer)

เป็นระดับที่ใช้กำหนดวิธีการควบคุมการเชื่อมต่อระหว่างผู้รับข้อมูลและผู้ส่งข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุดการสื่อสาร

6. ระดับปรับข้อมูล (Presentation Layer)

เป็นระดับที่ดูแลเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างแอปพลิเคชันของคอมพิวเตอร์เครื่องต่างๆในเครือข่าย

7. ระดับประยุกต์ (Application Layer)

เป็นระดับที่จัดการเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน เช่น การเข้าถึงฐานข้อมูล หรือการรับ-ส่งอีเมล์

อินเตอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

อินเตอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

อินเตอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างไรบ้าง การใช้ชีวิตในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของการศึกษา ทางด้านของธุรกิจต่างๆ หรือแม้แต่ทางด้านของสื่อบันเทิงก็ตาม

 

ขยายความทางด้านการศึกษา

อินเตอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างไรบ้าง เราสามารถใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อสนับสนุนทางด้านของการศึกษา เพราะส่วนใหญ่เราจะใช้อินเตอร์เน็ตในการส่งการบ้าน ติดต่อสื่อสารในการอธิบายถึงรายละเอียด ช่วยในการนัดหมาย รวมทั้งยังใช้เป็นการติดติอสื่อสารระหว่างอาจารย์และนักเรียนหรือนักศึกษาได้อีกด้วย หรืออาจจะเป็นระหว่างนักเรียนด้วยกันเอง ซึ่งในการเรียนการสอนในยุคสมัยนี้จะเป็นการเรียนผ่านระบบออนไลน์สะส่วนใหญ่ เพราะในยุคปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นการเรียนในระบบออนไลน์กันแล้ว เนื่องจากเป็นการเรียนที่ใช้ในเวลาที่เราสะดวก และยังสามารถลดค่าเรียนเซพได้เยอะเลยทีเดียว และอินเตอร์เน็ตนี้ยังเปรียบเสมือนห้องสมุดที่มีขนาดใหญ่มากอีกด้วย แถมยังมีข้อมูล ภาพ และอื่นๆให้น่าสนใจกว่าห้องสมุดแบบเดิมๆที่เคยเจอในอดีต

 

ขยายความทางด้านของธุรกิจ

เราสามรถใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเชื่อมโยงกับธุรกิจได้ด้วยมีการซื้อขาย ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะมีการบริการด้วยการส่งที่รวดเร็ว เราบริการนี้เป็นการถูกยอมรับเนื่องจากได้มีการซื้อขายและบริการส่งที่สะดวกและรวดร็วเป็นพิเศษ ซึ่งการส่งแบบนี้เป็นการตอบโจทย์ของคนสมัยนี้เป็นอย่างมาก เพราะไม่ยุ่งยาก สะดวก รวดเร็ว แถมสามารถสั่งซื้อตอนไหนก็ได้ เพราะไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน ก็ตามท่านก็จะสามารถสั่งซื้อสินค้าที่ท่านต้องการได้อย่างสะดวกสะบาย หรือแม้กระทั่งหากท่านมีความสนใจแต่อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนั้นก็สามารถสอบถามได้ในทันทีโดยไม่ต้องเดินทาง

 

ขยายความทางด้านบันเทิง

อินเตอร์เน็ตที่เราใช้ในปัจจุบันสามารถสร้างความบันเทิงให้กับเราได้อย่างเช่นดูโทรทัศน์ การดูภาพยนตร์ และรวมไปถึงการอ่านเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นการใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น อินเตอร์เน็ตในด้านของการบันเทิงนี้เราพูดได้เลยว่าเป็นการทำเพื่อให้เราได้คลายเครียด พักผ่อนหย่อนใจ หรือได้รับชมเพื่อความสนุกสนานตามความต้องการส่วนตัวของแต่ละบุคคล เราสามารถดูได้ทุกเรื่องราวที่เราอยากดู ไม่ว่าจะเป็น ข่าวสาร วรสารต่างๆ นิยาย ตลก เป็นต้น เราสามารถค้นคว้าได้ทุกเรื่องหรือแม้แต่ดูทุกอย่างที่เราต้องการผ่านอินเตอร์เน็ตนี้ จะเพื่อความบันเทิงหรืออะไรทั้งหมดที่กล่าวมาก็ตาม แต่ทั้งหมดนี้ล้วนใช้อินเตอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น