Application สุดแปลก Is it dark outside?

สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้นั้นเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก Application สุดแปลก เพราะว่าเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชั่นที่เราสามารถโหลดมาไว้ในมือถือของเราได้  แต่คุณรู้หรือไม่ว่า Application ดังกล่าวนี้มันมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ทำไมเราถึงหยิบยกขึ้นมาพูดที่เราหยิบยกเรื่องราวที่ฉันดังกล่าวนี้ขึ้นมาพูดนั้นเพราะว่ามันเป็น Application สุดแปลก

ที่ใครหลายคนก็อาจจะไม่คิดว่ามันมีอยู่จริงๆแต่แน่นอนว่าเราไม่รู้ก็เรียกหมายความว่ามันจะไม่มี คุณบ้าหรือเปล่าถ้าหากคุณอยากจะรู้แล้วว่า Application สุดดังกล่าวนั้นมันมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไงมันจะน่าสนใจแค่ไหนไปทำความรู้จักกันพร้อมกัน

สิ่งที่น่าสนใจในวันนี้นั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชั่นสุดแปลกที่สามารถโหลดมาไว้ได้ในมือถือของเราจะแน่นอนว่าถ้าคุณได้รับรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นดังกล่าว จนกว่าจะมองว่ามันเป็น Application ที่ไร้สาระเราไม่จำเป็นที่จะต้องโหลดมันมาก็ได้ 

เราไม่จำเป็นที่จะต้องมีแอพพลิเคชั่นดังกล่าวนี้ในคลังก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่า Application สุดแปลกที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้นมันเป็น Application ที่มีชื่อว่าIs it dark outside? อันนี้เป็น Application ที่น่าสงสัยอย่างมากถ้ามีในมือถือของใครสักคนก็อาจจะเหมาะสำหรับคนที่อยู่ในห้องมืดๆไม่ได้ออกไปไหนก็ Application Is it dark outside? จะเป็น App ถามมือถือว่าตอนนี้ข้างนอกมืด

หรือยังถ้ายังเป็นกลางวันมือถือ ก็จะบอกว่าไม่แต่ถ้ามืดมือถือจะบอกด้วยว่าใช่ความแม่นยำมากๆก็ต้องเปิดร่วมใช้งานกับระบบ gps ในมือถือซึ่งในความเป็นจริงเราสามารถเช็คได้ด้วยการเปิดหน้าต่างออกไปดูเราก็จะสามารถรู้ได้แล้วว่าฟ้ามืดหรือยังแต่ Application นี้มีคนสนใจเยอะมากจน 

มียอดคนโหลดในจำนวนหลักหมื่นและติดดาวถึงระดับ 3 ครึ่งในการ Comment กันเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นต่างๆที่มีความทันสมัยในยุคปัจจุบันนี้มันมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันออกไปแอปพลิเคชันที่ถูกสร้างขึ้นมาก็ถูกสร้างขึ้นมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่แตกต่างกันออกไปอีกตัว

อย่างไรก็ตามนอกจาก Application สุดจากการกล่าวที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นมันก็ยังมี Application อื่นอีกมากมาย ที่มีความน่าสนใจและแปลกประหลาดใจเช่นเดียวกันถ้าหากคุณอยากที่จะทำความรู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นแปลกๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นักก็ลองศึกษาค้นหาข้อมูลดูเพิ่มเติมไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไรเลยถ้าหากว่าเราอยากที่จะเรียนรู้มันเพิ่มเติม

 

สนับสนุนโดย.  UFABET เว็บหลัก

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขยะที่ไม่มีการถูกจัดการ

ขยะอิเล็กทรอนิกส์

ปัญหาขยะ คือปัญหาระดับชาติ  แน่นอนว่า มีหลายประเทศ ที่ยังไม่สามารถจัดการเรื่องราวของ   ขยะได้  ขยะอิเล็กทรอนิกส์ พวกเขาอาจจะพยายามแล้ว แต่ด้วยปัจจัยหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง มันทำให้ไม่สามารถจัดการปัญหาง่ายๆได้ซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึง

เราจะมาพูดถึงขยะที่ไม่สามารถถูกจัดการได้ เนื่องจากว่ามนุษย์ได้หายไปจากโลกใบนี้แล้ว ก็ไม่มีใครจัดการขยะเหล่านี้  ทำให้โลกของเราเต็มไปด้วยขยะ และแน่นอนว่าเรื่องที่จะนำเสนอวันนี้ และทำความรู้จักในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย 

 

เรื่องราวของขยะแม้ว่าในปัจจุบันนี้  จะมีการจัดการขยะอยู่แต่มันก็ยังคงมีปัญหาอยู่ดี  แล้วถ้าหากว่ามนุษย์หายไปจากโลกใบนี้ล่ะ  ปัญหาขยะเหล่านี้จะมีใครมาจัดการ  หรือว่าโลกของเราต้องเต็มไปด้วยขยะต่างๆมากมาย  การทำงานประเภทศิลปะของมนุษย์เมื่อไม่มีมนุษย์ เชื้อราความชื้น ก็จะเกิดขึ้น

งานล้ำค่าที่สร้างสรรค์ จะไม่เหลือชิ้นดี แต่หากมีตู้นิรภัยที่เก็บของมีค่า จะยังคงอยู่ได้ปลอดภัยดี และหากไม่มีมนุษย์ในโลกใบนี้ ดาวเทียมนับพันทั่วโลกจะตกสู่พื้น  ซึ่งเกิดปรากฏการณ์คล้ายฝนดาวตก  มีขยะอิเล็กทรอนิกส์มากมาย  กระจัดกระจายตามแหล่งน้ำ  และยังคงมีเครื่องครัวสแตนเลส ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์กองพะเนินแต่มันมีคุณสมบัติคงทน 

สามารถอยู่ได้นานนับพันปี แน่นอนว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น  หลังจากที่มนุษย์ได้หายไปจากโลกใบนี้อย่างถาวร  สิ่งที่มนุษย์ได้สร้างเอาไว้ก็คงเหลือแค่ขยะ  ที่ไม่มีประโยชน์อะไรต่อสิ่งมีชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้  แน่นอนว่านอกจากปัญหาขยะแล้วมันก็จะมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นความมืดมิด  ที่จะเข้าปกคลุมโลกของเรา 

โลกของเราจะกลับเข้าสู่ยุคที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่    สัตว์ต่างๆก็จะเริ่มออกมาหากิน  เดินไปไหนมาไหนก็ไม่คอยระวัง จะถูกทำร้ายจากมนุษย์  พลังงานไฟฟ้าหรือว่าแหล่งพลังงานก็จะหมดไป  เพราะว่าสิ่งที่มนุษย์ที่ตั้งระบบไว้  มันจะหยุดทำงานหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากเหตุการณ์  ที่มนุษย์จะหายไปจากโลกใบนี้  มันมีมากมาย

สำหรับเรื่องราวที่เราพูดถึงนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงอะไร  ถ้ามนุษย์ก็สามารถหายไปจากโลกใบนี้ได้  เป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์หายไปมันคืออะไรเราก็ไม่สามารถที่จะตอบคำถามดังกล่าวนี้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  อย่างไรก็ตามได้มีการออกมาพูดถึงมากมายว่า  ถ้าหากบนโลกใบนี้ไม่มีมนุษย์หรือว่ามนุษย์หายไปมันจะมีอะไรเกิดขึ้นบาง  ซึ่งสิ่งที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย.    สมัคร Gclub

นิโคลาเทสลากับพีระมิด

ชาวอียิปต์โบราณนั้นถือได้ว่ามีความรู้ความสามารถเป็นอย่างมาก  ในสมัยอียิปต์โบราณ  นิโคลาเทสลากับพีระมิด  ถ้าหากว่าเราได้ลองศึกษาตำราต่างๆ  หรือว่าศึกษาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับมหาพีระมิดดู  คุณจะรับรู้ว่าในช่วงยุคสมัยนั้นมีการทำสิ่งต่างๆขึ้นมามากมาย

และแน่นอนว่ามันก็เป็นจุดกำเนิดของสิ่งประดิษฐ์ทั่วโลก  ที่เราอาจจะใช้กันอยู่  เรื่องราวที่น่าสนใจในวันนี้นั้น  ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนิโคลาเทสลากับพีระมิด ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนทำความรู้จักพร้อมกันเลยดีกว่า

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก  ซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักมันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับมหาพีระมิดทั้ง 3 ที่เกิดขึ้นในสมัยอียิปต์โบราณนั้น  แน่นอนว่ามันยังคงมีเรื่องราวความลี้ลับต่างๆมากมาย  แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบเกี่ยวกับพีระมิดทั้ง 3ได้

ซึ่งในวันนี้สิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก  มันเป็นเรื่องราว  ที่มีชื่อว่านิโคลา        เทสลากับพีระมิดนั้นเอง ในปี 1935 เทสลาออกแบบชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า  ที่จะจ่ายไฟไปทั่วโลก  เขาเห็นโลกมี 2 ขั้ว  เปรียบเสมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดยักษ์  ที่มีพลังไร้ขีดจำกัดและที่ระดับความสูง 34 ฟุต

    ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์  มีชั้นของอากาศบริสุทธิ์ที่จะนำกระแสไฟฟ้า ที่แรงดันสูงกระจายออกไปจากนั้น  จะมีตัวรับอยู่บนพื้นที่จะลดแรงดันไฟฟ้า  ให้มีศักยภาพที่ผู้บริโภคสามารถใช้ได้  หลักการนี้อธิบายได้ว่าถ้าปล่อยสัญญาณไฟฟ้า  ก็จะมีเสาโอเบลิสก์เป็นตัวรับ ซึ่งชาวอียิปต์โบราณน่าจะสร้าง        เสาโอเบลิสก์

  เพื่อเป็นเครือข่ายการกระจายพลังงานทั่วโลก  ส่งสัญญาณไฟฟ้าฟรีสำหรับทุกคนซึ่งสร้างไม่สำเร็จ  หรืออาจจะสร้างเสร็จแล้ว  ถูกทำลายไปเมื่อหลายพันปีก่อน  คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากเรื่องราวของ    นิโคลาเทสลากับพีระมิดนี้  มันก็ยังมีเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว  เกี่ยวกับสามารถหาพีระมิดได้มีการสร้างขึ้นมาในสมัยอียิปต์โบราณ

  แน่นอนว่ามันมีเรื่องราวลึกลับต่างๆมากมายที่เรายังไม่สามารถหาคำตอบเกี่ยวกับมันได้  เช่นเดียวกันกับในทศวรรษที่ 4  มีคนสันนิษฐานว่าพีระมิดทั้งสามนั้น เป็นยุคต้น ส่วนในยุคกลาง  นักวิชาการก็บอกว่า พีระมิดทั้งสามนั้น  เป็นที่เก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของอียิปต์ในช่วงที่น้ำท่วมของโนอา

  และแน่นอนว่ามันก็ยังมีอีกมากมาย  ที่เกี่ยวข้องกับมหาพีระมิดตั้ง 3 นี้  แต่แน่นอนว่ามันก็ยังคงเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้  และก็เชื่อถือไม่ได้มีอยู่ปะปนกันไป  เพราะว่าข้อมูลต่างๆเหล่านี้ก็ได้มี        นักทฤษฏีสมคบคิดออกมาพูดมากมาย บ้างก็ว่าพีระมิดทั้ง 3 มนุษย์ต่างดาวสร้าง มหาพีระมิดทั้ง 3 อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    gclub

Samsung ไม่ยอมซื้อ Android

สิ่งที่น่าสนใจที่เราอยากจะนำเสนอให้ทุกคนได้รับรู้กันนั้น Samsung ไม่ยอมซื้อ Android  แน่นอนว่ามันมีทั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้น   บนโลกและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา  แต่ในวันนี้เรื่องราวที่อยู่นอกโลกเราจะพักไว้ก่อนเพราะมันอาจจะไกลตัวของใครหลายๆคน  ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเราก่อนดีกว่า

  เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี  ที่มีความทันสมัยที่เรานำมาใช้ในอุปกรณ์ที่เรียกว่า Smart Phone ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวที่เราจะพูดถึง มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ Samsung และ Android นั้นเอง 

มีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก  และสิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้นเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Samsung และ Android

มันมีเรื่องหนึ่งที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน  ถึงแม้ว่า Samsung นั้นจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android แต่คุณรู้หรือไม่ว่า Samsung ไม่ได้ซื้อระบบปฏิบัติการ Android มาเป็นของตนเอง  แต่เหตุผลที่ทำให้ Samsung ไม่ซื้อ Android  มาเป็นของตนเองนั้นมันจะคืออะไรไปทำความรู้จักมาพร้อมกันเลยดีกว่า  ก่อนที่บริษัท Google จะเข้าซื้อ Android ในปี 2005

คุณทราบหรือไม่ว่า ช่วงปลายปี 2014 นาย  andy rubin และทีมงานเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่  ของซัมซุง  ที่อยู่ในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อรีเซ็ตระบบปฏิบัติการ Android ให้กับทางผู้บริหารของ Samsung โดยที่ทางนาย  andy rubin นั้น ต้องการเงินทุนสนับสนุนและกับการที่ Samsung จะได้เข้ามาถือหุ้นส่วนหนึ่งของบริษัท Android แต่ทว่าทาง Samsung ก็ปฏิเสธ 

เนื่องจากพวกเขาไม่มั่นใจว่าใน andy rubin และทีมงานจะสามารถสร้างระบบ Android  ที่ว่านี้ได้สำเร็จจริงๆ อย่างไรก็ตาม  นอกจากสิ่งที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว       มันก็ยังมีเรื่องอื่นอีกมากมาย  ที่เกี่ยวข้องกับ Samsung และระบบปฏิบัติการ Android อย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวนี้ยังมีอะไรที่น่าสนใจ  ที่เรายังพูดไม่หมด 

ถ้าหากคนอย่างที่จะรู้อะไรเพิ่มเติมแล้ว  เราก็ลองไปศึกษาค้นหาข้อมูลดู  นอกจากเรื่องนี้แล้วมันก็ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ Android มากมายไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ไปที่มาของ Android หรือแม้แต่แรงบันดาลใจ ในการสร้างหุ่นยนต์สีเขียวที่เป็นโลโก้ของ Android ขึ้นมาหรือแม้แต่โทรศัพท์ Android กับนาซ่า  ที่ได้มีการร่วมมือกันในการสร้างเทคโนโลยีที่น่าสนใจขึ้นมา

  อย่างไรก็ตามเรื่องราวเหล่านี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่ง  ที่เราควรจะศึกษากัน สุดท้ายนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  มีเรื่องราวต่างๆมากมายที่มีความน่าสนใจยิ่ง  เป็นในยุคโลกาภิวัตน์หรือว่ายุคของเทคโนโลยีในหน่อยว่า  บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับสิ่งนี้  จำเป็นที่จะต้องศึกษาและพัฒนาต่อยอดสินค้าของตนเอง   

    ให้มีคุณภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น  เพราะว่ามันมีบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่  และมีอุปกรณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา  ไม่รู้ว่าบริษัทแห่งนี้จะเข้ามายึดครองตลาด  ที่เรากำลังยึดครองในปัจจุบันนี้เมื่อไหร่  ดังนั้นแล้วการที่เรามองอนาคตอยู่ได้เรื่อยๆจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

 

สนับสนุนโดย.    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

รถ 2 หน้า สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์

รถยนต์ธรรมดาหน้าเดียว มันก็เป็นอะไรที่สุดยอดมากแล้ว  ถ้าหากว่าเครื่องยนต์แรง แต่แน่นอนว่าเรื่องราวดังกล่าวนี้มันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากยิ่งกว่า หากว่ามันเป็นเรื่องราวของรถยนต์ 2 หน้าประเด็นดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากคุณตาคนหนึ่ง  ที่มีความฝันเหมือนกับเราว่าอยากมีรถในฝัน

  แต่คนนั้นฝันว่าอยากมีรถที่มันเป็น 2 หน้า ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆเลยทีเดียว  อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณอยากจะรู้ว่าเจ้ารถยนต์ดังกล่าวนี้มันเป็นยังไง  ความเป็นไปเป็นมาของมันจุดเริ่มต้นและจุดจบของรถยนต์ 2 หน้า เป็นยังไงไปทำความรู้จักพร้อมกันเลย 

มีสำนวนสุภาษิตไทยมากมาย  ที่สอนให้เราได้เรียนรู้อะไรต่างๆซึ่งแน่นอนว่าสุภาษิตคําพังเพยบางอย่างมัน  ก็สามารถใช้ได้จริงๆเพราะว่ามันก็ตรงตามที่เขาได้กล่าวไว้ในสำนวนสุภาษิตของไทยและแน่นอนว่า  นอกจากสํานวนสุภาษิตของไทยแล้ว  มันก็ยังมีสำนวนสุภาษิตต่างชาติด้วย 

ซึ่งสํานวนสุภาษิตไทยที่ว่านกสองหัว  หรือว่าคนสองหน้า  คนโบราณเขาก็บอกว่าคบไม่ได้  ก็นี่มันรถ 2 หน้าน่ะสิแล้วแบบนี้จะขับได้ไหมล่ะเนี่ย  ช่างเครื่องกลชาวอินโดนีเซียวัย 71 ปีที่มีความใฝ่ฝันว่า  อยากจะผลิตรถยนต์แต่งรถ   สักคันหนึ่งก็เลยออกแบบสร้างรถยนต์ 2 หน้าคันนี้ขึ้นมา เขาใช้เวลา 6 เดือน คุณตาก็ทำมันสำเร็จ

เมื่อคุณตาดัดแปลงโดยการนำรถ 2 คัน มาตัดแบ่งครึ่งส่วนท้ายทิ้งไป  แล้วก็เอา2 ส่วนมาบัดกรีเชื่อมต่อกันแบบนี้ ลงทุนเยอะเหมือนกัน  รถในฝันของคุณตาเท่พอหรือยัง แต่หลังจากที่คุณตาได้นำรถในฝันของตัวเองไปทดลองวิ่งบนท้องถนนธรรมดา แต่ทว่าว่ารถของคุณตาก็โดนตำรวจยึดเอาไว้ทันที 

ซึ่งคุณตำรวจเขาบอกว่ารถของคุณตาเข้าข่าย  การละเมิดกฎจราจรเกี่ยวกับความปลอดภัยหลายข้อเลยละ  สิ่งประดิษฐ์เทคโนโลยีต่างๆนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  เราก็สามารถที่จะเป็นนักประดิษฐ์ ผู้ยิ่งใหญ่ได้เช่นเดียวกัน  หากว่าเรามีจินตนาการที่ล้ำเลิศ  มีการวิเคราะห์ทดลองลงมือทำ  พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆถามว่าเรามีความสามารถที่จะทำมันได้แน่นอนว่า  รางวัลนักประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี

  ก็คงอาจจะไม่หลุดลอยไปไหนไกลแต่บางคนก็สร้างเทคโนโลยีที่เราเองก็ไม่คาดคิดเลยว่า  จะมีคนคิดค้นขึ้นมาแล้วก็จะมีการนำมาใช้จริง  สุดท้ายนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเรื่องราวต่างๆมากมายที่มีความน่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์  เทคโนโลยีสมัยใหม่บนโลกของเราในยุคปัจจุบันนี้

  มันเป็นอะไรที่เราควรจะศึกษาไว้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว  เพราะว่าโลกของเราสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีความทันสมัย โดยมีสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์เพื่อนำมาอำนวยความสะดวกให้กับมวลมนุษยชาติอย่างเรา

 

สนับสนุนโดย.    gclub เว็บตรง

The Hum Rider

สำหรับในประเทศไทยมันมีข้อจำกัดมากมายหลากหลายอย่าง  The Hum Rider โดยเฉพาะเรื่องราวของวัฒนธรรมที่มีความเกี่ยวข้องและมีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยเป็นอย่างมาก  การที่เราจะทำอะไรเราก็ต้องคำนึงถึงสิ่งนี้เป็นอันดับแรก  แต่แน่นอนว่าวัฒนธรรมมันแตกต่างกัน

สำหรับคนไทยแล้วย่อมมีการถือในเรื่องต่างๆมากกว่าต่างประเทศ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องราวของยานพาหนะ  แต่ยานพาหนะดังกล่าวก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องคำนึงถึง การนำมาใช้ในชีวิตจริงในประเทศไทยด้วย 

The Hum Rider ฟังดีๆอยากพูดเพี้ยน รู้สึกเบื่อหน่ายกับปัญหาก็ติดกันใช่ไหม จะดีแค่ไหนหากในอนาคตข้างหน้า เราจะมีรถที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหารถติดนี้ลงไปได้  กับนวัตกรรมไอเดียสุดเจ๋งของ      The Hum Rider รถยนต์ที่คิดขึ้นมา  เพื่อแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ  ซึ่งความพิเศษของรถยนต์คันนี้ ก็คือนวัตกรรมในการใช้ระบบการยกตัวถังให้ลอยขึ้นข้างบน

  จะมีความสูงประมาณ 1.50 เมตรที่ถูกออกแบบมาในสไตล์ของรถ SUV สามารถกดปุ่มยกตัวเอง  ให้ลอยขึ้นด้วยระบบไฮดรอลิค  จากนั้นก็สามารถขับคร่อม  ผ่านรถคันอื่นไปอย่างง่ายดาย  แต่ช่างน่าเสียดาย ที่นวัตกรรมดังกล่าวเป็นเพียงแค่แนวคิดที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง 

แต่ก็ลองคิดกันเร็วๆว่า หากอนาคตมีรถที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ นี่จะเป็นนวัตกรรมที่ดี หรือจะเพิ่มข้อเสียให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนกันแน่  แต่สำหรับในไทยของเรา รับรองเลยค่ะว่า   ข้ามหัวผู้ใหญ่แบบนี้  ก็คงได้มีเรื่องกันไม่หยุดไม่หย่อนเป็นแน่  มันก็เป็นเพราะว่าวัฒนธรรมของแต่ละประเทศนั้นต่างกันนั้นเอง การตั้งรถต่างๆ

แน่นอนว่า  ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของวัฒนธรรมด้วย อย่างเช่นถ้าหากว่าหากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ  และได้มีการนำมาใช้ในประเทศไทยจริงๆ  ก็คงจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จาก   ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียว  เพราะว่าวัฒนธรรมของคนไทย  เป็นยังไงทุกคนต่างก็รู้จักกันดีแต่แน่นอนว่าในต่างประเทศ 

มันก็สามารถที่จะทำได้อย่างไรก็ตาม  ถึงแม้ว่ารถดังกล่าวหรือว่าให้ดังกล่าวนี้  จะไม่สามารถเกิดขึ้นจริงๆแต่มันก็เป็นไอเดียที่เจ๋งสุดยอดไปเลย ซึ่งก็ไม่ได้ว่าในอนาคตไอเดียดังกล่าวนี้อาจจะเกิดขึ้นจริงและก็ได้มีการนำมาใช้ในประเทศไทยด้วย  ซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่การคาดการณ์เท่านั้นแต่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 

อย่างนั้นแล้วเราก็คงจะต้องรอลุ้นกันต่อไป สุดท้ายนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเรื่องราวของรถยนต์จะเป็นเรื่องราวของนวัตกรรม แต่มันก็ยังคง มีเรื่องของนวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่สำหรับในประเทศของเรา การสร้างรถที่สามารถยกข้ามหัวคนอื่นได้ ก็ไม่เหมาะกับคนไมยหรือเปล่าก็ต้องแล้วแต่มุมมอง

เจ้าของ NFT เศร้า ใส่ตัวเลขผิด จากราคาสามแสน เหลือเพียงราคาสามพัน

      การมองตัวเลขเยอะๆทำให้เราตาลายได้นะ เหมือนกับ ชายหนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นเจ้าของภาพ  NFT รายนึง   โดยชายหนึ่งรายนี้เขาตั้งใจจะขายภาพในราคาเริ่มต้น 300000 ดอลลาร์แต่ว่าเขาดันไปใส่จุดทศนิยมผิด ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนทันที  เพราะภาพของเขานั้น ขายออกในราคาเพียงแค่ 3000 ดอลลาร์เท่านั้น  

         คนโชคร้ายในครั้งนี้คือแม็ค หรือที่รู้จักกันในชื่อวงการ  NFT ว่าแม็คน็อต เดิมทีเขาต้องการจะขายภาพ  NFT  ในราคา 75 อีเกอร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10 ล้านบาทแต่บังเอิญว่าเขาพิมพ์ผิดเป็น 0.75  อีเกอร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10000 บาทแสน  และก่อนที่จะทำแก้ไขผลงานก็จะอัพโหลดขึ้นบนแพลตฟอร์ม Open C ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายผลงาน  NFT และถูกซื้อไปเรียบร้อยแล้ว 

         โดยที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไรซะด้วยซ้ำ การที่มีการที่มีคนมาซื้อเร็วขนาดนี้คาดว่าอาจจะมาจากการที่มีบอทในโอเพ่นซีที่มีคนตั้งโปรแกรมให้ค้นหาผลการตีราคาต่ำและซื้อไม่ทันทีฉะนั้นในกรณีนี้นะครับก็เหมือนภาพถ่ายได้รับไม่ทันได้ทำใจเลยครับสำหรับคนงานที่แม็คหายไปเป็นภาพลิงทำหน้าเบื่อสวมชุดครุยเหล็กซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นงาน NFC ที่โด่งดังมีชื่อว่า boris Club ประกอบไปด้วยบรรดาลิงทำหน้าเบื่อแต่งตัวและจับคู่กับไอเทมแบบต่างๆ

       เช่นลิงทำหน้าเบื่อใส่ชุดลายพรางลิงทำหน้าเบื่อมีตาเลเซอร์ลิงทำหน้าเบื่อใส่แว่นกันแดดน่าเบื่อกว่า 10000 ตัวนี้ได้รับเสียงตอบรับจากบรรดานักสะสมที่เห็นคุณค่าและอยากสร้างกำไรจาก NFTเป็นอย่างดีทำให้ตอนนี้ลิงทำหน้าเบื่อตัวที่ราคาถูกที่สุดจะอยู่ที่ประมาณสองแสนหนึ่งหมื่นดอลล่าร์หรือประมาณ 7 ล้านบาทคิดดูสิว่าแม็กขายไปในราคาเพียงแค่ 1 แสนบาทเท่านั้นเอง

         ความผิดพลาดทำนองนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า Fat -Finger Errors หรือแปลประมาณว่านิ้วอ้วนไปโดนปุ่มอีกแล้วก็คือพิมพ์ผิดพิมพ์ตก เพระาว่านิ้วไปโดนปุ่มเรื่องปกติ สำหรับในวงการเงินความผิดพลาดแบบนี้มีให้เห็นบ่อยครั้งเช่นกรณีที่พนักงานธนาคารเพื่อส่งเงินเข้าบัญชีลูกค้าไปหกพันล้านดอลลาร์เกือบ 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียวเลย 

        โชคดีว่าวันถัดไปธนาคารยังทำเรื่องแก้ไขทันได้แต่ในกรณีของ Mac ไม่ใช่แบบนั้น เพราะว่าสำหรับของแม็คนั้นเมื่อมีการกดขายแล้ว ก็จะขายออกไปเลย  แม้ว่าแม้คจะสูญ เสียเงินจำนวนมากในพริบปิดตา แต่าว่าแม็คก็ยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยการออกมาทวิตส์แซวตัวเอง ปนให้กำลังใจว่าในบางครั้งคนเราจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้างแต่การที่เราไปจดจ่อกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและแก้ไขอะไรไม่ได้นั้นก็เหมือนกับการทำร้ายตัวเองซ้ำสอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  เซ็กซี่ บาคาร่า ขั้นต่ำ10บาท

นาซาเตรียมปล่อยกล้องส่องเอเลี่ยนขึ้น สู่อวกาศเดือนธันวาคมปีนี้ 

       มีการเปิดเผยออกมาว่าในขณะนี้ทางนาซ่าได้มีการเตรียมเปิดตัวกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James webb Space Telescope  นาซาเตรียมปล่อยกล้อง โดยจะมีการเปิดเตัวในเดือนธันวาคมนี้  หลังจากที่มีการเลือนเปิดตัวมาหลายปีแล้วแล้วก็มีแพลนใช้สำรวจสัญญาณของเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก  ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าจะช่วยให้พบสัญญาณได้เร็วสุดภายในทุก 20 ชั่วโมง

         กล้องโทรทรรศน์อวกาศ  James webb  เป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศที่ใหญ่ที่สุดและทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาในตอนนี้โดยตัวกล้องมีความยาว 20 เมตร

และมีน้ำหนักที่หนักถึง 2600 กิโลกรัม  โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6.5 เมตร  ด้านในบรรจุกลไก การทำงานที่สำคัญ ซึ่งรวมแล้วมีมากถึง  178 รายการเช่นกล้องถ่ายคลื่นใกล้อินฟราเรด   สเปกโตกราฟไกล้ขึ้นอินฟราเรด   เครื่องมือวัดอินฟราเรดกลางและ เซ็นเซอร์นำทางความละเอียดสูง 

     สำหรับทางด้านมูลค่าของกล้องตอนนี้อยู่ที่ประมาณ หนึ่งหมื่น ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 330000 ล้านบาท  ผลงานการพัฒนากล้อง James webb  นี้เป็นความร่วมมือของ 3 องค์กร  ได้แก่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซาองค์การอวกาศยุโรปและองค์การอวกาศแคนาดา   

สำหรับเป้าหมายในการสร้างเพื่อทดแทนกล้องโทรทรรศน์อวกาศตัวเก่า  Hubble Space Telescope ที่ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ.  1995   เพราะด้วยความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีในกล้องตัวใหม่นี้มันจึงเหมาะสมสำหรับการใช้สังเกตวัตถุอันห่างไกลในเอกภพซึ่งไกลเกินกว่าความสามารถของกล้องตัวเดิมจะจับภาพได้

        สำหรับกล้อง James webb นั้นเริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 นับจนถึงปัจจุบันนี้ก็มีอายุ 25 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสขึ้นสู่อวกาศเสียทีเนื่องจากต้องเลื่อนกำหนดการออกไปเรื่อยๆเพราะยังคงต้องทดสอบและแก้ไขระบบไม่สมบูรณ์   จนล่าสุดก็มีกำหนดการใหม่ก็คือการที่จะปล่อยขึ้นวงโคจรในวันที่ 22 ธันวาคมนี้

ด้วยจรวด Ariane 5 โดยหลังจากปล่อยตัวกล้องจะไปอยู่ในตำแหน่งวงโคจรใกล้เคียงกับจุด  Sun-Earth LaGrange  ซึ่งอยู่ห่างจากโลกเกือบหนึ่งล้านห้าแสนกิโลเมตรและอยู่ห่างจากดวงจันทร์ประมาณ 4 เท่า

         ปัจจุบันนี้มีหลายวิธีที่สามารถระบุได้ว่าดวงใดมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บ้างหรือดาวดวงใดมีคุณสมบัติเป็นอย่างไร  แต่วิธีการดังกล่าวยังคงค่อนข้างชัดเจน แล้วก็มีตัวแปรมากมายที่ยังคงเป็นแค่การคาดเดานั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่กล้อง James webb ใช้งานได้จริงมันก็จะสามารถเปลี่ยนการศึกษานอกระบบดาวเคราะห์ใหม่และความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกไปอย่างสิ้นเชิงก็เป็นได้

    ดังนั้นเราต้องมาคอยตามลุ้นกันว่าในเดือนธันวาคม ที่จะมีการปล่อยกล้อง James webb ออกนอกโลกในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝาก-ถอน เอง

IPhone รุ่นไหนขายดีสุด

IPhone รุ่นไหนขายดีสุด แน่นอนว่าสิ่งไหนดีย่อมได้รับความนิยม และสิ่งที่ตามมาก็คือยอดขาย จำนวนมากมายมหาศาลเช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้  มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับมือถือรุ่นหนึ่ง ที่บอกได้เลยว่าใครหลายๆคนไม่ได้ยินชื่อ ก็ต้องร้องอ๋อ

เพราะว่ามันเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากแล้ว    และก็เชื่อใจว่าใครหลายคนก็คงจะใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้อยู่เช่นเดียวกัน

ในวันนี้เรานะที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันนั้น  มันเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวของเรามากๆแต่เชื่อได้เลยว่าใครหลายคนอาจจะใช้โทรศัพท์มือถือ  iPhone

ชื่อนี้หลายคนก็คงรู้จักกันเป็นอย่างดี  เพราะว่ามันเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใครหลายๆคนก็อยากจะครอบครอง  แต่ราคาของมันก็สูงพอสมควร  แต่ไม่ว่าราคาจะสูงแค่ไหน  ถามแฟนเขาก็ยังมีความเหนียวแน่นอยู่ดี  เนื่องจากว่า iPhone นั้นเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้งาน  ได้นาน  เมื่อตัดสินใจที่จะซื้อแล้วรับรองได้เลยว่ามันคุ้มค่า  ต่อการที่เราจะลงทุน 

ซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงมันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ iPhone รุ่นไหนขายดีที่สุดนั่นเอง  สำหรับIPhone รุ่นไหนขายดีที่สุดปี 2007 มาจนถึงทุกวันนี้ Apple iPhone ออกมาแล้วมากมายหลายต่อหลายรุ่น  แล้วคุณทราบไหมว่าในบรรดา iPhone เหล่านั้น  หากเรานับจำนวนเครื่องที่ถูกขายไปรุ่นไหน รุ่นที่ขายดีที่สุด คือคำตอบก็คือ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้มีการเปิดตัวมาแล้ว

ตั้งแต่ปี 2014 และมันก็มียอดขายรวมกันจากทั่วโลก       มีจำนวนมากกว่า 220 ล้านเครื่อง ในขณะที่ iPhone x กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลก ประจำ     ไตรมาส 1 ของปี 2018 ดูยอดขายกว่า 16 ล้านเครื่องทั่วโลก  จำนวนและตัวเลขที่ทางบริษัท มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาจำนวนยอดขาย  ถือได้ว่าเป็นตัวเลขที่มากมายมหาศาลเลยทีเดียว 

อะไรก็ตามนอกจากเรื่องราวที่ว่า iPhone รุ่นไหนขายดีที่สุดมันก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย  มีความน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการต่างๆในแต่ละรุ่นการพัฒนาต่อยอด  มาจนถึงรุ่นในปัจจุบันนี้ถึงไอโฟน 13 แล้วใครหลายๆคนก็ยังคงใช้ iPhone 6 กันอยู่ยังใช้ iPhone x มันก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร

เพราะว่าอา iPhone รุ่นเก่าๆก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่ ถ้าหากว่าทาง Apple ยังไม่ให้หยุดการอัพเดท  เชื่อได้เลยว่าทางผู้บริโภคก็ยังคงจะใช้วันต่อเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณอยากที่จะทำความรู้จักกับ iPhone รุ่นต่างๆนอกจาก 2 รุ่น 3 รุ่นที่เราได้กล่าวไปก็ลองศึกษาค้นหาข้อมูลดู เพราะว่าแต่ละรุ่นมันก็มีความแตกต่างกัน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

มนุษย์จะโง่ขึ้นถ้ามีเทคโนโลยีดีๆเพิ่มขึ้น

ความรู้สึกนึกคิดของเราไม่สามารถที่จะให้ใครมาคิดแทนเราได้  มนุษย์จะโง่ขึ้น แน่นอนว่าคำนี้เป็นสิ่งที่เราใช้กันมาอย่างช้านาน  ซึ่งมันก็ไม่ได้เกินความจริงเลย  แต่ในปัจจุบันหรือว่าอนาคตอันใกล้นี้  ที่ได้มีการนำเทคโนโลยีต่างๆอย่างหุ่นยนต์และ AI เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง 

แน่นอนว่าความนึกคิดหลายๆอย่างของมนุษย์อาจจะเปลี่ยนแปลงไป  ด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้  ก็เป็นไปได้ซึ่งในวันนี้สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงเราจะมาพูดถึงเรื่องของมนุษย์ที่จะโง่ขึ้น ถ้าหากว่าให้หุ่นยนต์และ AI เข้ามามีบทบาทมากเกินไป

การที่เราได้นำหุ่นยนต์หรือ AI เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือว่ามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา   หรือว่ามีบทบาทในด้านอุตสาหกรรม  สิ่งต่างๆเพิ่มมากยิ่งขึ้นนะ  มันทำให้มนุษย์เราสบายขึ้น  แน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพต่างๆ หรือแม้แต่ความโง่ความฉลาดของมนุษย์  ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะมีผลกระทบเช่นเดียวกัน 

เพื่อเป็นการคิดต่างๆการแก้ไขปัญหาของมนุษย์  ที่ลดน้อยลงเนื่องจากว่ามีหุ่นยนต์หรือว่า AI เป็นตัวคิดแทน  หลายคนอาจจะมองว่ามันย้อนแย้ง ว่ามีเทคโนโลยีสูงสุดแล้ว เราต้องสร้างมันขึ้นมา support เราแต่ทำไมมนุษย์ถึงโง่ขึ้นได้  คำตอบ ก็คือ  อนาคตเมื่อเรามีหุ่นยนต์ทำงานให้  คิดแทนให้เราก็แทบจะไม่ต้องใช้สมองทำอะไรเลย

  เที่ยวเล่นไปวันๆ  และวันใด วันหนึ่ง  เมื่อเราประสบปัญหาและไม่มีหุ่นยนต์หรือ AI มาช่วยเรา  เราจะรู้สึกว่าเราโง่จริงๆ  เพราะที่เหลือทั้งหมดเราจะโทรเรียกมา จัดการแก้ไขปัญหาให้   แน่นอนในอนาคต ถ้าหากว่าเราใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ AI เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง  มันจะทำให้มนุษย์อย่างเราสบายขึ้น  มนุษย์ไม่ต้องคิดอะไรที่มันซับซ้อน

  เพียงแค่บอกหุ่นยนต์สั่งการผ่านระบบเสียงมันก็จะทำให้เราทุกอย่าง  ไม่ว่าเราอยากจะรู้อะไร  หรือว่าอยากจะทำอะไรก็หุ่นยนต์ก็สามารถที่จะทำให้เราได้ทั้งหมด  ดังนั้นและความสะดวกสบาย  ที่ตามมามันก็ทำให้มนุษย์อย่างเราขี้เกียจเพิ่มมากยิ่งขึ้น  ต่อไปนี้มนุษย์ก็ไม่รู้จักกระบวนการ  หรือวิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเอง 

ดังนั้นแล้วถ้าหากว่าในอนาคตสิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นจริงๆแล้วของเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง  อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะมีประโยชน์มากมายแค่ไหน  ถ้าหากว่าเราใช้มันยังไม่รู้จักขอบเขต  ไม่รู้จักข้อดีข้อเสียของมันมาใช้งานมันในทางที่ไม่ถูก  มันก็จะเกิดโทษได้เช่นเดียวกัน  แน่นอนว่าสิ่งที่เราพูดไปนั้นมัน  คือ  ผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงข้อเดียวเท่านั้น    ถ้าหากอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ต่อแล้วละ  ก็ลองไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมดู

 

สนับสนุนโดย.  ทางเข้า Ufabet มือถือ